Young Thai Artist Award - 3D - -

< กลับ

สาขาภาพถ่าย

PHOTOGRAPHY

a balloon

ณัฐพล สวัสดี

‘นัท-ณัฐพล สวัสดี’ หรือ ‘นัท สวัสดี’ คือนักแสดงอิสระ ศิลปิน เจ้าของรางวัลยอดเยี่ยม สาขาภาพถ่าย ในโครงการรางวัลยุวศิลปินไทย 2556 หรือ Young Thai Artist Award 2013 ผู้มีความเชื่อว่า ศิลปะคือเครื่องมือนำเสนออะไรบางอย่าง เป็นเหมือนสื่อกลางที่มีทั้งจินตนาการ และความสร้างสรรค์เหนือจริง

นัทใช้ศิลปะหลากหลายแขนงในการสร้างสรรค์ผลงานของเขา ทั้งภาพถ่าย การแสดง การทำซาวนด์ อาร์ต (ศิลปะที่ให้ความสำคัญกับเสียง) ตลอดจนใช้แนวคิดในการเขียนวรรณกรรมมาทำงานร่วมกับภาพถ่าย

“ผมตั้งใจให้ภาพถ่ายเป็นเหมือนบทกวี คือเราตีความกวีผ่านภาษา แต่ไม่จำเป็นต้องตีความแบบ 1+1 = 2 ก็ได้ เราตีความเป็นอย่างอื่นได้ ภาพถ่ายก็เช่นกัน คนดูตีความจากผลงานที่สร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่และอิสระ”

อ่านเพิ่มเติม

        “ผมทำงานศิลปะโดยไม่ได้คาดหวังว่าสังคมจะดีขึ้นในอนาคต แต่หวังว่าสังคมจะดีขึ้น ณ ตอนนี้
        “ศิลปะเป็นเพียงเครื่องมือสะท้อนสังคมในช่วงเวลาหนึ่ง จึงถูกเรียกว่า‘ศิลปะร่วมสมัย’ และผมเองก็ทำงานศิลปะร่วมสมัยอยู่ ซึ่งก็คือสมัยปัจจุบัน ไม่แน่ใจว่าหากมองย้อนกลับไปในอดีต หรือมองถึงอนาคตจะเป็นอย่างไร แค่ปัจจุบันสังคมของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้นก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ของงานศิลปะแล้ว”
        ‘ณัฐ-ณัฐพล สวัสดี’ คือนักแสดงอิสระ ศิลปิน และช่างภาพประจำหอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร เจ้าของรางวัลยอดเยี่ยม สาขาภาพถ่าย ในโครงการรางวัลยุวศิลปินไทย 2556 หรือ Young Thai Artist Award 2013 ผู้มีความเชื่อว่า ศิลปินเป็นหนึ่งในอาชีพสร้างสรรค์ที่ทำงานไปพร้อมกับกระบวนการของสังคม
        ณัฐบอกว่า ศิลปะคือเครื่องมือนำเสนออะไรบางอย่าง เป็นเหมือนสื่อกลางที่มีทั้งจินตนาการ และความสร้างสรรค์เหนือจริง ภาพถ่ายก็ทำหน้าที่เช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่กดชัตเตอร์เหมือนเป็นการบันทึกช่วงเวลานั้นไว้
        ก่อนเปิดประตูเข้าสู่วงการศิลปะ ณัฐสนใจด้านสังคมศาสตร์ เนื่องจากใน พ.ศ. 2549 คือช่วงรัฐประหารครั้งแรกในชีวิตของณัฐ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หันมาสนใจเรื่องการเมือง และเลือกเรียนคณะรัฐศาสตร์ กระทั่งต่อมา เขามองว่า สิ่งที่อยากนำเสนอไม่ใช่เอกสารหรือบทความวิชาการ จึงตัดสินใจแตะเบรก แล้วโค้งเข้าภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยความตั้งใจที่จะสื่อสารเรื่องราวในสังคมผ่านสื่อกลางอย่างศิลปะ
        ย่างก้าวสำคัญในวงการศิลปะของณัฐ เริ่มต้นเมื่อจบการศึกษาใน พ.ศ. 2556 เขามุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายชุดหนึ่ง โดยใช้ชื่อว่า ‘หรือผลจะลืมถอดดอกกุหลาบไว้ที่ 164/69’ ส่งเข้าประกวด Young Thai Artist Award 2013 และคว้ารางวัลยอดเยี่ยม สาขาภาพถ่าย ไปครอง
        “ผมทำงานถ่ายภาพในเชิงภาพถ่ายศิลปะออกสู่สาธารณชนแค่ในโครงการ Young Thai Artist Award 2013 ตอนนั้นตั้งใจให้ภาพดูธรรมดา ถ่ายข้าวของเครื่องใช้ในบ้านที่วางระเกะระกะ แต่ผ่านกระบวนการคิดมาทั้งหมด โดยมีแรงบันดาลใจมาจากการอกหัก (หัวเราะ) ผมมองว่า ศิลปะคือการแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกบางอย่าง โดยผ่านวิธีคิดแบบกวี”
        ณัฐเล่าต่อว่า ยุคก่อน เขาชอบอ่านวรรณกรรมของนักเขียนอย่าง แดนอรัญ แสงทอง, ไม้หนึ่ง ก.กุนที ยุคนี้อ่านชัชชล อัจฯ อย่าง ‘ลุกไหม้สิ! ซิการ์’ หรือ ‘ไม่มีหญิงสาวในบทกวี’ ของซะการีย์ยา อมตยา ชีวิตเขาจึงถูกหล่อหลอมมาด้วยภาษาและวิธีคิดดังกวี
        “ผมตั้งใจให้ภาพถ่ายเป็นเหมือนบทกวี คือเราตีความกวีผ่านภาษา แต่ไม่จำเป็นต้องตีความแบบ 1+1 = 2 ก็ได้ เราตีความเป็นอย่างอื่นได้ ภาพถ่ายก็เช่นกัน คนดูตีความจากผลงานที่สร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่และอิสระ
        “ชื่องาน 164/69 คือบ้านของผม ภาพถ่ายที่เป็นรูปกางเกงกองไว้อยู่บนพื้นเหมือนโดนถอดทิ้งไว้ ผมจัดองค์ประกอบให้เหมือนดอกกุหลาบ แทนสัญลักษณ์ของความรักหรือหัวใจที่ถูกทอดทิ้งไว้นั่นเอง”
        ต่อมาในปี 2017 ณัฐถูกเชิญไปแคสติ้งเป็นนักแสดงหนังเรื่องหนึ่ง เขานำความสามารถทางด้านศิลปะไปใช้ในการแสดง ขณะเดียวกันก็นำศาสตร์การแสดงมาใช้ในงานศิลปะ และสร้างสรรค์ผลงานที่มีชื่อว่า ‘Up against the Wall’ หรือ ‘หลังชนฝา’ เป็นวิดีโอ ความยาว 52 นาที โดยเป็นการนำซีนความยาว 1 นาทีในภาพยนตร์เรื่อง
        ‘Full Metal Jacket’ ของ Stanley Kubrick มาดัดแปลงและตีความเหตุการณ์ในฉากนี้ให้คล้ายกับเหตุการณ์ในชีวิตจริง“Full Metal Jacket เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอช่วงเวลาของสงครามเวียดนาม ในเรื่องมีตัวละครชื่อว่า Private Pyle หรือพลทหารไพล์ เขาเป็นทหารเกณฑ์ ที่โดนกดขี่ ล่วงละเมิด และถูกกลั่นแกล้งจากครูฝึก สุดท้ายเขาก็ยิงครูฝึกจนเสียชีวิต
        “ผมหยิบซีนความยาวประมาณหนึ่งนาที นั่นก็คือ ช่วงก่อนพลทหารไพล์จะฆ่าครูฝึก ผมแสดงด้วยตนเอง เพราะชอบช่วงที่เขากำลังตัดสินใจเหมือนกำลังจะบ้า เป็นช่วงเวลาประหลาดอย่างบอกไม่ถูก พร้อมกับหยิบสภาวะจิตใจของตนเอง ประกอบกับสังคม ณ ขณะนั้น เล่าถึงความอดทนอดกลั้นของผู้คนที่กำลังจะปะทุออกมาคล้ายภูเขาไฟระเบิด”
        ไม่ว่าจะเป็น สภาวะกดดันบีบคั้นของสังคม สภาวะความเหลื่อมล้ำ หรือความไม่เท่าเทียม
        “ผมยืดซีนเพียงหนึ่งนาที เป็นเกือบหนึ่งชั่วโมง ผ่านเทคนิค Slow Motion ส่วนการติดตั้งใช้กระจกฉายโปรเจ็กเตอร์สะท้อนกระจกลงมา เปิดเอฟเฟกต์ควันจากน้ำแข็งแห้ง เพื่อให้ภาพเหมือน 3 มิติ และใช้ซาวนด์ย่านต่ำเพื่อเขย่าคนดู”
        จากการพูดคุยทำให้เรารู้ว่า นอกจากภาพถ่ายและการแสดง ณัฐยังสนใจด้านดนตรี อย่างการทำซาวนด์ อาร์ต (Sound Art หรือ Sound Installation Art) ซึ่งเป็นศิลปะที่ให้ความสำคัญกับเสียง
        “งานนี้ชื่อว่า ‘สายล่อฟ้า’ จะถูกจัดแสดงอีกครั้งในปี 2025 ที่ Dib Bangkok Museum of Contemporary Art ของคุณเพชร โอสถานุเคราะห์ ผมนำเพลงมหาฤกษ์ แบ่งโน้ตเป็นหนึ่ง สอง หนึ่ง สอง เรียงกัน โดยคนนึงเป่าทรัมเป็ตโน้ตที่หนึ่ง อีกคนเป่าโน้ตที่สอง ลำโพงมีอยู่ 2 ข้าง ผมอัดเสียงมาแต่ให้เสียงผสมกันเอง เคยเจอทฤษฎีหนึ่งบอกไว้ว่า เวลาเราได้ยินเสียงขาดห้วง สมองของเราจะต่อเติมเอง และทำลำโพงด้วยทองแดงให้ล่อฟ้า ในเชิงไอเดียมองว่า ถ้าฟ้าผ่าลงมาจริงก็คงเจ๋งดี”
        อีกหนึ่งผลงานวิดีโอและซาวนด์ อาร์ต ของณัฐ ถูกจัดแสดงขึ้นช่วงเดือนตุลาคม ในงาน Bangkok Art Biennale 2024 ภายใต้แนวคิด ‘รักษา กายา’ (Nurture Gaia)
        “ผมสนใจเรื่องเกี่ยวกับแมลง ในผลงานนี้ก็คือ ปลวก ไอเดียมาจากบ้านของผมโดนปลวกกิน วิธีนำเสนอค่อนข้างซับซ้อนแต่สนุกดี เริ่มต้นการทำงานของผมคืออยากให้คนดูสนุกไปกับเรา จากนั้นคนดูจะตีความอย่างไรก็ได้ทั้งหมด”
        สำหรับณัฐผู้มีความสามารถและความสนใจในศิลปะหลากหลายแขนง เขามองว่า ศิลปะเปรียบเสมือนประตูสู่โลกกว้างที่ไม่ใช่แค่ทำให้เขาได้เจอผู้คนและสังคมที่หลากหลาย แต่ยังช่วยให้เขามีสายตาในการมองบางสิ่ง หรือตัดสินบางอย่างได้อย่างรอบด้านและเฉียบคมมากยิ่งขึ้น

ผลงานที่ภาคภูมิใจ

Title of Work

Just Cleaning

Year or Product

2012

Title of Work

sound of nothing

Year or Product

2014

Title of Work

Up Against The Wall

Year or Product

2018

Title of Work

Never wish to exist, yet never hope to disappear

Year or Product

2022